วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

ประวัติส่วนตัว



                                           
                                              วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวัน
                                                           GEN1102 Section: AF
                                                    ชื่อ นางสาวนันทิกานต์ พิลาวัลย์    
                                                                   571758039
                                        วิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก

ไร่บุญรอด


                   ไร่บุญรอด เชียงราย เป็นไร่ของบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์, ลีโอ ไร่บุญรอด ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร บนพื้นที่นับพันไร่ ในบรรยากาศโอบล้อมด้วยภูเขา และ ธรรมชาติ ที่เพิ่งจะเปิดให้เข้าชมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ไร่บุญรอด เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2554 และต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น สิงห์ปาร์ค เชียงราย ภายในไร่บุญรอดปลูกพืช ทำการเกษตรหลายชนิด เช่นไร่ชาอู่หลง, พุทราไต้หวัน, สตอร์เบอร์รี่, มัลเบอร์รี่, ยางพารา, ฟักทองยักษ์, ผัก ผลไม้เมืองหนาว, ข้าวบาร์เลต์, ฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงวัวนม ฯลฯ
ที่ตั้งของไร่บุญรอดตั้งอยู่ริมถนน 1211 หรือถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ ห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร ที่นี่ไม่มีรถประจำทางผ่านต้องไปด้วยรถส่วนตัวหรือไม่ก็ต้องเหมาสองแถวรับจ้างเข้าไป


    การเข้าชมในไร่บุญรอด
                  นักท่องเที่ยวจะต้องจอดรถที่ลานจอดรถด้านหน้า แล้วลงทะเบียนเข้าชมที่โต๊ะข้างร้านกาแฟในรูปด้านล่าง การเข้าชมในไร่เส้นทางฟาร์มทัวร์จะต้องนั่งของทางไร่เท่านั้น ไม่สามารถขับรถเข้าไปได้เอง รถของไร่บุญรอดจะออกทุก 30-60 นาที ในแต่ละรอบจะรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 24 คนเท่านั้น ใช้เวลารอบละประมาณ 1 – 1 ชั่วโมง 30 นาที ในช่วงเทศกาลวันหยุดเดือนธันวาคม มกราคม จะเต็มทุกรอบ ควรมาวันธรรมดาจะดีกว่า การเข้าชมในไร่บุญรอดนั้นไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้าชมได้ฟรี
 

    การเดินทาง
                   จากถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองเชียงราย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนน 1208 ข้างวัดร่องขุ่น แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยก 1211 ขับตรงมาประมาณ 2 กิโลเมตรจะเจอกับไร่บุญรอดอยู่ทางซ้ายมือ จุดสังเกตเป็นรูปปั้นสิงห์สีทองขนาดใหญ่ที่เนินหญ้าซ้ายมือ






วัดร่องขุ่น


                          วัดร่องขุ่น เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 โดยท่านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชั้นแนวหน้าของไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจาก3 สิ่งต่อไปนี้คือ
1.ชาติ : ด้วยความรักบ้านเมือง รักงานศิลป์ จึงหวังสร้างงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน
        2. ศาสนา : ธรรมะได้เปลี่ยนชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัยจากจิตที่ร้อนกลายเป็นเย็น จึงขออุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนา 
        3. พระมหากษัตริย์ : จากการเข้าเฝ้าฯ ถวายงานพระองค์ท่านหลายครั้ง ทำให้อาจารย์เฉลิมชัยรักพระองค์ท่านมาก จากการพบเห็นพระอัจฉริยะภาพทางศิลปะและพระเมตตาของพระองค์ท่าน จนบังเกิดความตื้นตันและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ


                          การเดินทางมาวัดร่องขุ่น ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายเชียงราย กรุงเทพฯ ผ่าน จ.พะเยา ผ่าน อ.แม่ใจ จ.พะเยา เข้า อ.พาน จ.เชียงราย ขับรถมุ่งหน้าไปทาง จ.เชียงรายเรื่อยๆ พอออกจากตัว อ.พาน จะข้ามสพานแม่ลาว (แม่น้ำลาว) ขับรถไปซักพักจะถึงแยกปากทางแม่สรวย (แยกไป อ.แม่สรวย และไป จ.เชียงใหม่) ขับรถต่อไปอีกซักประมาณ 10 ก.ม ก่อนจะถึงแยกขุนกรณ์ (ทางไปน้ำตกขุนกรณ์) ประมาณ 200 เมตร ถ้ามองดูทางด้านซ้ายมือ จะเห็นตัววัดสีขาวสะดุดตายิ่งนัก เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายไปทางน้ำตกขุนกรณ์ วัดร่องขุ่นจะอยู่เข้าไปประมาณ 100 เมตร ซึ่งวัดร่องขุ่นจะอยู่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงราย13 ก.ม ตรงหลัก ก.ม ที่ 816 ถนนพลหลโยธิน (หมายเลข 1/A2 )
                          ถ้ามาจาก อ.แม่สาย มาจากสนามบินนานาชาติเชียงราย หรือตัวเมืองเชียงราย ให้มาทางทิศใต้ ทางไป อ.พาน จ.เชียงราย ทางไป จ.พะเยา เมื่อออกจากตัวเมืองเชียงราย จะผ่านแยกไฟแดงสถานีขนส่งแห่งที่ 2 ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงไฟแดง แยกขวา แยกขุนกรณ์ (ทางไปน้ำตกขุนกรณ์) ให้เลี้ยวขวาเข้ามา ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงรายไม่กี่นาทีก็จะถึงวัดร่องขุ่น
                          ถ้ามาจาก จ.เชียงใหม่ ให้มาทาง อ.ดอยสะเก็ด เข้า อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย มาเรื่อยๆ ผ่าน อ.แม่สรวย มาจนถึง สามแยกปากทางแม่สรวยให้เลี้ยวซ้ายไปทาง จ.เชียงราย (เลี้ยวขวาไป อ.พาน, ไป จ.พะเยา) จากปากทางแม่สรวยขับไปทางตัวเมืองเชียงรายประมาณ 10 ก.ม จนถึงแยกขุนกรณ์ (ทางไปน้ำตกขุนกรณ์) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป

                        
วัดร่องขุ่นเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.3018.00 น.
ห้องแสดงภาพ : เปิดให้เข้าชมวันจันทร์ ศุกร์ เวลา 8.0017.30 น.
วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 8.00 18.00 น.







ดอยตุง


            ดอยตุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเด่นของเชียงราย อยู่เหนือจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 45 กิโลเมตร  ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทอดตัวยาวอยู่ทางด้านซ้ายของเส้นทางที่มุ่งไปอำเภอแม่สาย แต่เดิมเป็นเทือกเขาหัวโล้นที่ถูกชาวเขาตัดทำลายเพื่อใช้พื้นที่ทำการเกษตร  จนกระทั่งสมเด็จย่าได้เสด็จมายังดอยตุงและทรงมีพระราชดำรัสว่า ฉันจะปลูกป่าดอยตุง  หลังจากนั้นในปี 2530  รัฐบาลจึงได้เริ่มจัดทำโครงการพัฒนาดอยตุงขึ้นโดยปลูกป่าคืนความสมบูรณ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ ได้ดึงชาวเขาเข้ามาทำงานในโครงการปลูกป่าดอยตุง  แต่ก่อนนั้นเส้นทางขึ้นดอยตุงเป็นเส้นทางลอยฟ้า คือเมื่อนั่งรถบนถนนดอยตุงแล้วมองลงมาก็จะเห็นวิวโล่งๆ ไม่มีต้นไม้มาบดบังทัศนียภาพ แต่ในปัจจุบันนี้ดอยตุงกลับคืนสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่งเมื่อนั่งรถไปตามเส้นทางขึ้นดอยตุงจะเห็นแต่ต้นไม้แน่นขนัดนั่นล้วนเป็นป่าปลูกทั้งสิ้น  หลังจากโครงการปลูกป่าแล้วเสร็จจึงได้มีการสร้างพระตำหนักดอยตุง และมีโครงการอีกหลายๆ โครงการตามมาเพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น   จากเทือกเขาหัวโล้นกลับกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของเชียงราย แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวดอยตุงเป็นจำนวนมาก  แหล่งท่องเที่ยวบนดอยตุงที่นักท่องเที่ยวขึ้นไปเยี่ยมชมได้แก่  สวนแม่ฟ้าหลวง  พระตำหนักดอยตุง  พระธาตุดอยตุง  สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวงดอยช้างมูบ

            ไร่แม่ฟ้าหลวง  หรือสวนดอยตุง  เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวบนพื้นที่ 25 ไร่ อยู่ในแอ่งที่ราบด้านทิศเหนือของพระตำหนัก  สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 ภายในสวนถูกตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกตลอดปี  กลางสวนมีประติมากรรมเด็กยืนต่อตัว งานประติมากรรมนี้ได้รับพระราชทานชื่อว่า " ความต่อเนื่อง "  นอกจากแปลงไม้ประทับกลางแจ้งแล้วยังมีโรงเรือนไม้ในร่ม จุดเด่นคือกล้วยไม้จำพวกรองเท้านารีชนิดต่างๆ ที่มีดอกสวยงามมาก  ความภาพความสวยงามของสวนแม่ฟ้าหลวง

            พระตำหนักดอยตุง  เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จย่า ปลูกแบบง่ายๆ ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์  พระตำหนักสร้างด้วยไม้ทั้งหลังโดยมีโครงเหล็กอยู่ภายใน ไม้ในการสร้างเป็นไม้ลังใส่สินค้าที่การท่าเรือฯ คลองเตย ทูลเกล้าถวายแด่สมเด็จย่า  เมื่อสร้างออกมาแล้วสวยงามยิ่งนัก รูปแบบการสร้างเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมล้านนากับบ้านพื้นเมืองสวิตเซอร์แลนด์  ที่เพดานห้องโถงทำเป็นเพดานดาว  บริเวณด้านหลังพระตำหนักมีระเบียงยืนออกไป เมื่อยืนที่ระเบียงจะเห็นทัศนียภาพของดอยตุงที่สวยงาม บริเวณขอบระเบียงมีกระบะปลูกไม้ดอกที่มีสีสันสวยงามพระตำหนักเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม  โดยจะต้องมีมัคคุเทศก์ของพระตำหนักเป็นผู้นำเยี่ยมชม



            การเดินทางมาดอยตุง จากตัวเมืองเชียงรายใช้เส้นทางสาย 110 เป็นเส้นทางที่มุ่งสู่แม่สาย  ประมาณ กม. 870-871  เลี้ยวซ้ายขึ้นดอย 17 กม. ถึงพระตำหนักดอยตุง